5 Mar 08 : ชีวิตกับแบดมินตัน ชิทๆ..

     พอจะเขียนก็หมดอารมณ์เขียนทุกทีเลยหว่ะ.. เพิ่งรู้สึกว่าการจะเขียนอะไรสักเรื่องมันต้องใช้สมาธิอย่างสูงส่งเชียวล่ะ.. ทุกวันอังคารหลังเลิกงานเราก็ไปตีแบตที่คอร์ตของโรงงานยาสูบที่ชมรมแบตของ SET ได้จองไว้ให้.. อย่างที่เคยเขียนไว้ คือว่าเราก็ตีมานานแล้ว แต่หารู้ไม่ที่เราตีๆมาอ่ะ.. มันผิดหลักหมดเลยว่ะ.. แล้วยื่งตีๆกับพวกคนใน office นี่.. แต่ละคนเก่งๆทั้งนั้น.. ยิ่งรู้สึกว่า.. ด้อยไปทันที.. แล้วเริ่มกระบวนการ blame ตัวเอง..  แต่สิ่งหนึ่งที่กรูไม่ชอบเลย คือความคิดเชี่ยๆของตัวเอง.. แมร่งก่อนกรูจะเริ่ม blame ตัวเองนะ กรูแมร่งกราดไปทั่วเลย.. (ประมาณว่ามั่นใจในระดับนึงว่าแต่ก่อนกรูตีเก่งนะ เก่งในระดับนึงเลย) ที่เห็นว่ากรูซื้อนู้นซื้อนี่ จะจิงจังกะแบดมินตัน มันก็เป็นแค่การสนองความคิดเชี่ยๆของตัวเองเท่านั้นแหละ.. เชี่ยที่หนึ่ง… รองเท้าแมร่งไม่ดีหว่ะ.. ไม่หนึบไม่ติดพื้น.. วิ่งเร็วๆแล้วเท้าพลิกได้ง่าย.. ก็หาเรื่องซื้อ หวังว่ามันจะดีขึ้น.. แล้วเป็นไงล่ะ.. ก็ดีขึ้นนะ.. แต่..มันก็ยังไม่เต็มที่เหมือนเมื่อก่อนหว่ะ.. หงุดหงิดตัวเอง… เชี่ยที่ 2.. เริ่มโทษไม้ล่ะ.. แต่ควบคุมตัวเองได้เนื่องจากไม้มันแพงและจิตใจด้านดีก็ยังคิดว่า.. เป็นที่ฝีมือมึงนั่นแหละ ทักษะมันห่วย.. ก็พอยับยั้งชั่งใจได้เล็กน้อย.. ก็เลยหันไปโทษ Grip แทน.. (เพราะตอนนั้นแมร่งเจ๊งพอดี) เปลี่ยนมาก็จับถนัดมือขึ้น ไม่รู้ว่าใหญ่เกินไปหรือเปล่า.. แต่ก็ยังไม่ถูกใจข้าพเจ้า..ก็เลยเริ่มหันไปโทษอย่างอื่นต่อ.. เชี่ยที่ 3..ผมยาวแมร่งรำคาญทำให้กรูตีไม่ดี ไม่คล่องตัว.. ตัดสั้นกุดมาก็ชิทเหมือนเดิม..  ต่อเนื่องด้วยเชี่ยที่ 4.. ใส่แว่น วิ่งๆแล้วจะหลุด มุมมองแคบ ตามลูกไม่ทัน.. ขอลองใส่ contact lens มาตีสักวันดิ๊.. ไงล่ะมรึง.. มุมมองกว้างสมใจเลยล่ะสิ.. แดมน?ชิทเลย เชี่ยที่ล่าสุด.. เอ็นแมร่งขึ้นมาเกือบ 3 ปีแล้ว.. มันคงหย่อนแล้ว แมร่งตบแล้วไม่คมเลยหว่ะ.. เอ้า!! จัดไป.. ไปขึ้นมาเลยเส้นเล๊กเล็ก เปลียนมาแล้วไงล่ะ… มันก็ดีได้แค่เป็นของใหม่ล่ะ ปลอบใจตัวเองไปวันๆ ตีไปก็หลอกตัวเองว่าดีขึ้น.. สัดจิงๆ.. จนมาถึงวันนี้ตอนนี้ ถึงได้รู้อย่างชัดแจ้งแล้วว่า.. มึงหน่ะแหละที่ห่วย.. มัวแต่ไปโทษนู้นโทษนี่ มองดูตัวเองซะบ้างเว่ย.. ตีเหยาะแหยะๆ.. มรึงเห็นสีหน้าคนที่เล่นกับมึงหรือเปล่า.. เค้าคงเซ็งมึงเต็มทน ว่าไอ่ห่านี่.. มึงช่วยไปไกลๆเถอะอย่ามาคู่กับกูเลย.. ใครคู่กับมึงก็แพ้หมด.. (ซึ่งมันก็จิง และเป็นความจิงที่โหดร้ายมาก..) ดังนั้น ห่วยก็ต้องพัฒนา.. ฝึกซ้อม.. อยากแรกเลยตอนนี้ก็ออกกำลังกายให้มากๆ.. เสริมสร้างแรงหน่อย.. ทักษะการตี basic ก็คงต้องซ้อมเอง ซ้ำๆย้ำๆ.. ถ้ามัวแต่ไปตีกลัวเสียแต้มยังงี้ ไม่มีทางพัฒนาได้หรอก.. ท่ามันจะมั่วไปหมด.. พอสนใจว่าท่าจะผิด แมร่งสติก็จะหลุด ตีลูกก็พลาด.. เอามันสักอย่างเถอะมรึง.. นะ..กรูขอร้อง..  ตอนนี้ขอแค่กรูสามารถไปตีคู่กับคนอื่นๆได้โดยที่กรูไม่รู้สึกว่ากรูเป็นตัวถ่วง!! แค่นี้ล่ะ.. KPI กรู

blog นี้คำผรุสวาทเยอะมากต้องขออภัยด้วยจิงๆ.. พูดกับตัวเองต้องใช้คำระดับนี้ล่ะ.. ถึงจะเข้าใจ และสะใจดี..

ps. ในที่สุดข้าพเจ้าก็ได้ไปลิ้มลองรสชาติปลาแซลมอนซาชึมิที่ Takumi เสียที.. ละลายในปากจริงๆด้วยหึๆ… หมดปาย 530.- (ปาดเหงื่อ!!)

7 thoughts on “5 Mar 08 : ชีวิตกับแบดมินตัน ชิทๆ..”

  1. pakorn mingmaetan​gkul
    ถ้าพี่ตีเก่งมากๆ ไปโอลิมปิกเลยดีม่ะ555 (ล้อเล่นๆ)
     
    กีฬาพี่จาเอาอารายกับมัน เค้าเอาไว้ให้ออกกำลังกายพี่
  2. ช่วงแรกๆกะช่วง ps. นี่มากันคนละมู้ดเลยอะพี่ อิอิ
  3. ไงแก ชั้นไปอยู่เมืองเหนือนาน เลยไม่ได้เข้ามาอ่านเลย
    ยังบ่นเยอะเหมือนเดิมนะ 555
  4. Wit Tatiyanupa​nwong
    หะๆ เล่นกีฬา จริงจังแล้วอย่าลืมความสนุกด้วยนะ
  5. 555+
    อ่านแล้วได้อารมณ์ดี
    ชอบแบดเหมือนกัน เพียงแต่ชอบดูไม่ชอบเล่น
    นั่นสินะ จะทำไรสักอย่าง ท่ามัวแต่โทษโน่นโทษนี่ ก็คงไม่ไหว ก็คงต้องโทษตัวเอง
    และพยายามฝึกฝนตัวเองให้สามารถทำในสิ่งต่างๆได้ดั่งต้องการ
    ^__^
     
  6. เราก้อเปนหว่ะ ล่าสุดคิดจะฝึกภาษาอังกิด
    โทดว่าตำราที่บ้านมันไม่น่าอ่าน ก็ไปซื้อมาเล่มนึงหกร้อยกว่าบาท (จนป่านนี้มันยังอยู่ในถุง -”-)
    โทดว่าเพราะไม่ได้เทคคอร์ส ก้อไปลงเรียนมา(แต่ไม่ได้ฉลาดขึ้นเลย จิงๆ)
    รำไม่ดีโทษปี่โทษกลองไปเรื่อย
    แต่ที่เชี่ยจิงๆคือตัวเอง ขี้เกียจเอง ฮ่าๆ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *